“วอเทอร์เวิลด์” (Water world) สวนน้ำสำคัญของเมืองโคโลราโด้

เมื่อพูดถึงสวนน้ำประจำฤดูกาลแล้วนั้น ที่รัฐโคโลราโด้ก็ถือว่ามีสวนที่เป็นจุดขายอย่าง วอเทอร์เวิลด์ อยู่ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเดนเวอร์และเริ่มบริการตั้งแต่ปี 1979 โดยเป็นหนึ่งในสไลเดอร์แรกๆ ของรัฐเลยทีเดียว อีกทั้งทางสวนน้ำจะเปิดให้บริการเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น เริ่มจากวันระลึกถึงเหล่าทหารที่เสียชีวิตในสนามรบช่วงเดือนพฤษภาคมไปจนถึงวันแรงงานแห่งชาติที่จะอยู่ช่วงกันยายนนั่นเอง นอกจากนี้พวกเขายังถือว่าเป็นสวนน้ำขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศเช่นกันจากพื้นที่กว่า 67 เอเคอร์เลยนั่นเอง

วอเทอร์เวิลด์

แนะนำ วอเทอร์เวิลด์ สวนน้ำในรัฐโคโลราโด้

ด้านเครื่องเล่นที่เป็นจุดเด่นของ ท่องเที่ยวทั่วไทย วอเทอร์เวิลด์นั้น ก็จะมีทั้งสกรีมมิงมีมี่ที่ผู้เล่นจะสามารถนั่งไปยังบอร์ดที่จะไถลไปตามรางเหมือนกับรถไฟเหาะที่ทำความเร็วได้ถึง 30 ไมล์ต่อชั่วโมงก่อนที่จะพุ่งไปยังสระน้ำด้านล่างหรือจะเป็นทางสเปซโบลว์ที่จะสไลด์ตัวไปตามท่อ “ภูทับเบิก” กับจุดชมวิวสุดอลังการที่คนรักธรรมชาติไม่ควรพลาด จนกระทั่งไปเจอกับชามใบใหญ่ที่จะหมุนตัวผู้เล่นจนไหลไปตกช่องตรงกลาง รวมถึงสตอร์มที่จะเป็นสไลเดอร์เข้าไปในท่อมืดและจะมีเสียงเอฟเฟกต์เหมือนกับเกิดพายุหมุนขึ้นมาจริงๆ นอกจากนี้ยังมีสไลเดอร์ที่เล่นพร้อมกันหลายคนอย่างเทอร์โบเรเซอร์ที่จะมีการจับเวลาขณะสไลด์อีกด้วย

วอเทอร์เวิลด์

ส่วนสไลเดอร์อีกชนิดที่เป็นจุดขายของวอเทอร์เวิลด์ก็คือโวยาจทูเดอะเซนเตอร์ออฟดิเอิร์ธที่จะให้ผู้เล่นนั่งอยู่บนห่วงยางขนาดใหญ่พร้อมกับจะสไลด์ไปตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ในยุคดึกดำบรรพ์และจะมีการสไลด์เป็นรอบวงกลมก่อนจะไปเจอกับไดโนเสาร์และมีสไลด์ที่เป็นทางลาดชันลงไปอีกด้วย รวมถึงยังเป็นการเล่นที่ใช้เวลามากถึง 5 นาทีต่อการเล่นหนึ่งครั้งเช่นกันและกลายเป็นหนึ่งในเครื่องเล่นที่ใช้เวลามากที่สุด อีกทั้งยังรอบรับคนเล่นอีกกว่า 1,000 คนต่อชั่วโมง เนื่องจากเป็นสวนน้ำขนาดใหญ่นั่นเอง

กลายเป็นว่าทางวอเทอร์เวิลด์ได้มีเครื่องเล่นมากมายที่จะรองรับนักท่องเที่ยวต่างๆ อีกทั้ง บาคาร่าเว็บไหนดี ยังมีสไลเดอร์ที่แตกต่างไปจากที่อื่นๆ ทั่วไปเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเทอร์โบเรเซอร์หรือโวยาจทูเดอะเซนเตอร์ออฟดิเอิร์ธที่กลายเป็นจุดเด่นของสวนน้ำขนาดใหญ่แห่งนี้อีกด้วย

Related Post

ร้านคาราโอเกะ สถานที่แห่งการประชันเสียงร้องในโตเกียวร้านคาราโอเกะ สถานที่แห่งการประชันเสียงร้องในโตเกียว

คงไม่มีใครไม่รู้จักการร้องเพลงผ่านตัวหนังสืออย่างคาราโอเกะอย่างแน่นอน ซึ่งก็เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่เกิดมาจากประเทศญี่ปุ่น จนทำให้ในเมืองหลวงของพวกเขาเต็มไปด้วย ร้านคาราโอเกะ มากมายที่เปิดให้คนทั่วไปหรือนักท่องเที่ยวลองเข้ามาใช้บริการดู อีกทั้งยังเป็นร้านที่ให้บริการทั้งอาหารเครื่องดื่มมากมาย ไม่ใช่เพียงแค่การหยอดเหรียญเพื่อร้องเพลงเหมือนกับประเทศไทย โดยนักท่องเที่ยวในโตเกียวสามารถเห็นร้านบริการนี้ได้ทั่วเมืองเลยทีเดียวและมีย่านประจำอย่างชิบูย่าที่คนชอบความบันเทิงต้องไปกัน ร้านคาราโอเกะ อีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของโตเกียว โดยทั่วไปแล้วนั้น ท่องเที่ยวทั่วไทย ร้านคาราโอเกะในประเทศญี่ปุ่นมักจะเปิดบริการแบบตลอด 24 ชั่วโมงและไม่มีวันหยุดแต่อย่างใด ซึ่งคนที่สนใจจะต้องทำการจองห้องก่อนว่าจะต้องการใช้เวลากี่ชั่วโมงสำหรับการเข้าไปร้องเพลงในห้องเก็บเสียงนี้ “ซานต้าเวิร์คช็อป” สวนสนุกแห่งรัฐโคโลราโด้ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1956 รวมถึงบางแห่งยังมีเพื่อนๆ ที่สามารถเรียกมาช่วยร้องเพลงได้อีกเช่นกัน ส่วนค่าบริการนั้นส่วนใหญ่การร้องเพลงในช่วงกลางวันมักจะมีการเก็บค่าบริการที่ต่างกับตอนกลางคืนอีกด้วย นอกจากนี้ห้องในร้านยังจะมีความเป็นส่วนตัวอย่างมาก ซึ่งไม่จำเป็นต้องอายผู้คนที่อยู่ด้านนอกอีกด้วย นอกจากการร้องเพลงในร้านคาราโอเกะแล้วนั้น ลูกค้ายังสามารถสั่งบริหารต่างๆ ของพวกเขาได้ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อใช้สังสรรค์ในที่แห่งนี้นั่นเอง ส่วนการเลือกเพลงนั้นพวกเขาก็จะมีหน้าจอทัชสกรีนเพื่อเลือกภาษาและสามารถเลือกเพลงสากลได้อีกเช่นกัน ส่วนประเภทของเพลงต่างๆ ก็ยังมีให้เลือกมากมายตั้งแต่เพลงแจ๊สในยุค

แฮดงยงกุงซา อารามริมผาชายฝั่งปูซานที่ชวนให้แวะไปสักครั้งแฮดงยงกุงซา อารามริมผาชายฝั่งปูซานที่ชวนให้แวะไปสักครั้ง

ปูซาน เป็นเมืองท่าของเกาหลีใต้ที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวไม่แพ้โซลเลย อาจด้วยคาแรคเตอร์ของเมืองที่โดดเด่นกันไปคนละด้าน ขณะที่โซลมีความเป็นเมืองหลวงที่พลุกพล่าน ปูซานกลับถูกมองเป็นเมืองท่าทางใต้ที่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของคนเกาหลี แต่ไม่เพียงแค่สถานที่ท่องเที่ยวอย่างชายหาด เมืองปูซานยังเป็นที่ตั้งของอารามเก่าแก่ขึ้นชื่อและเป็นที่ศรัทธาอย่างมากของคนเกาหลี นั่นคืออารามริมผาชายฝั่งวัด แฮดงยงกุงซา แห่งเมืองปูซานนั่นเอง แฮดงยงกุงซา แห่งประเทศเกาหลี นับเป็นอีกวัดเก่าแก่ของคนเกาหลี วัดแฮดงยงกุงซาแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อค.ศ. 1376 นับจนถึงวันนี้ก็มีอายุกว่า 700 ปีแล้ว โดยพระภิกษุรูปหนึ่งฝันเห็นมังกรจึงได้มาสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นที่ริมทะเลดังที่นักท่องเที่ยวได้เห็นในวันนี้ วัดแฮดงยงกุงซาตั้งอยู่ริมผาชายฝั่งทะเลให้ทัศนียภาพงดงามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัดแห่งนี้หันหน้าไปทางตะวันออกเข้าสู่ทะเล จึงกลายเป็นหมุดหมายหนึ่งของชาวเกาหลีที่จะต้องมาเคาท์ดาวน์ปีใหม่กันที่นี่ และว่ากันว่าแสงแรกที่วัดแฮดงยงกุงซาแห่งนี้งดงามที่สุดที่หนึ่งในเกาหลีเลยทีเดียว เมื่อผ่านซุ้มทางเข้าและบันได้ 108 ขั้นเข้ามาบริเวณวัด นักท่องเที่ยวจะได้พบกับทิวทัศน์อันตระการตาของอารามที่ตั้งอยู่บนเนินเขาริมทะเล และเช่นเดียวกับวัดวาอารามอื่น ๆ ในเกาหลี

ชวนทุกคนไปชมสวนลับแห่ง พระราชวังชางด๊อกกุง ประเทศเกาหลีชวนทุกคนไปชมสวนลับแห่ง พระราชวังชางด๊อกกุง ประเทศเกาหลี

อีกหนึ่งพระราชวังสำคัญแห่งกรุงโซลที่นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมชมกันสม่ำเสมอก็คือ พระราชวังชางด๊อกกุง พระราชวังแห่งนี้แม้ไม่ได้ใหญ่โตโอ่อ่าเหมือนกับคยองบกกุง แต่ก็มีรายละเอียดและสวนสวย ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมกันได้ไม่รู้เบื่อทีเดียว พระราชวังชางด๊อกกุง ประเทศเกาหลี พระราชวังชางด๊อกกุงสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1405 สมัยพระเจ้าแทจงแห่งราชวงศ์โชซอน และเนื่องจากชางด๊อกกุงนั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระราชวังคยองบกกุง ชาวเกาหลีจึงรู้จักพระราชวังแห่งนี้ในนามพระราชวังตะวันออก และในปีค.ศ. 1592 พระราชวังแห่งนี้ก็ถูกเผาทำลายโดยกองทัพญี่ปุ่นก่อนจะถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ในปีค.ศ. 1619 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปีค.ศ. 1997 เมื่อมาเยือนพระราชวังชางด๊อกกุงสิ่งแรกที่จะได้พบก็คือประตูหน้าดอนฮวามุนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประตูทางเข้าที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในกรุงโซล เดิมประตูนี้ทำด้วยหินแกรนิตสีขาวทั้งหลัง ทว่าเมื่อถูกเผาทำลายไปการสร้างขึ้นใหม่ให้เหมือนเดิมนั้นทำได้ยากจึงถูกบูรณะขึ้นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน พระตำหนักหลักของพระราชวังชางด๊อกกุงนี้คืออาคารท้องพระโรงซองจองจอน ที่กษัตริย์เคยใช้ว่าราชการและใช้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และเป็นอีกที่หนึ่งที่เคยถูกเผาทำลายและสร้างขึ้นใหม่เช่นกัน และหากได้เข้าไปเยี่ยมชมก็จะพบกับสถาปัตยกรรมสมัยโชซอนที่ใช้สีแดง-เขียวเป็นหลักในการตกแต่ง รวมถึงภาพวาดที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของกษัตริย์อยู่ภายในด้วย แต่ไม่ใช่แค่พระตำหนักหรือพระที่นั่งเท่านั้น พระราชวังชางด๊อกกุงแห่งนี้ยังมีส่วนลับที่รู้จักกันในชื่อ พีวอน